เขาว่า...วัดพระธรรมกายเป็นวัดทุนนิยมจริงหรือ? (ตอน1)

มีพระกัลยาณมิตรรูปหนึ่ง เขียนจดหมายมา ท่านใช้คำว่า  “ขอแสดงอาบัติ” กับคุณครูไม่ใหญ่  ที่จริงอยากอ่านตามลำพัง แต่มีหลายข้อที่ท่านเขียนมา  อาจจะไปตรงกับใจใครบางคน  จะได้ถือโอกาสตรงนี้ชี้แจง ทำความเข้าใจกันสักนิด
ที่จริงถึงไม่ได้แสดงอาบัติ หรือมาขอขมาอะไร ก็ให้ไปหมดแล้ว  เพราะครูไม่ใหญ่อยากจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีเวร  ไม่มีภัยกับใคร  อยากจะไปอย่างสบาย ๆ ใจใส ๆ แต่นี่ก็เป็นความงามของพุทธบุตรที่ท่านเมื่อมีความรู้สึกที่ดีเกิดขึ้นแล้ว ท่านจะแสดง ไม่ปกปิด จะเปิดเผย เพื่อความบริสุทธิ์บริบูรณ์  เพราะท่านมีพระนิพพานเป็นเป้าหมาย
นี่ก็เป็นสิ่งที่ท่านเขียนมาก็จะอ่านย่อ ๆ ท่านบอกว่า
ท่านเคยมีอคติในใจ  ที่ยังไม่กล้าบอกกับใครในส่วนลึกก้นบึ้งหัวใจ  ซึ่งอาจจะไปตรงกับความคิดของคนอื่น ๆ ที่มีต่อวัดพระธรรมกาย ก็พูดง่าย ๆ กับครูไม่ใหญ่นั่นแหละ  แต่เขามักจะเหมารวม ๆ เป็นวัดพระธรรมกาย ไม่รู้เป็นยังไง
ที่จริงว่าครูไม่ใหญ่โดยตรงจะดีกว่า เพราะว่าพระธรรมกาย บาปนะ  ว่าครูไม่ใหญ่ไม่เป็นไร เพราะไม่ถืออยู่แล้ว  ไม่เอาเรื่องเอาราวกับใคร มันไม่มีเวลาจะไปคิดเรื่องเหล่านี้  นี่ก็ใกล้จะตายแล้ว อยากได้บุญ อยากจะทำงานพระศาสนา เพราะคำว่า ธรรมกาย เป็นคำสูง หมายถึงพระพุทธเจ้าที่อยู่ภายในตัว หมายถึงพระรัตนตรัย  เพราะฉะนั้นคำนี้ ถ้าใครรู้สึกไม่ชอบหน้าครูไม่ใหญ่ ก็ขอให้ใช้ตรง ๆ เลย ธัมมชโยบ้าง  อย่างนั้น อย่างนี้ อะไรก็ว่ากันไปเถอะ
1. วัดพระธรรมกายเป็นวัดทุนนิยม เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นทางวัดจะหาวิธีแก้ด้วยเงินอย่างเดียว
คุณครูไม่ใหญ่:
ไม่ใช่วัดทุนนิยมนะ  เป็นวัดบุญนิยม  คือ นิยมเรื่องสร้างบุญ สร้างบารมี  ถ้าจะบ้าก็บ้าเรื่องนี้แหละ บ้าสร้างบุญ สร้างบารมี ชวนเขาไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ

(อ่านต่อ ตอน 2)

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘