ความต้องการ ‘ทองคำ’ มาจากไหน?
ตามที่ได้เล่าให้ฟังว่า ในตลาดโลกมีความต้องการทองคำประมาณไตรมาสละ
1,000 ตัน (หรือปีละ 4,000 ตัน) โดยมาจาก 5 แหล่ง 1. ใช้เป็นเครื่องประดับ
(50%) 2. ซื้อทองคำแท่งเพื่อการลงทุน (30%) 3. ซื้อลงทุนผ่านกองทุน ETF
(5%) 4. ใช้ในอุตสาหกรรม (10%) และ 5. เป็นทุนสำรองของธนาคารกลาง (5%)
เมื่อดูข้อมูล 5 ไตรมาสย้อนหลังจะเห็นได้ว่า ราคาทองที่ตกลงต่อเนื่องในปี 2013 เกิดจากแรงเทขายของกองทุน Exchange Traded Fund (ETF) ซึ่งมีการขายสุทธิจำนวน 177 ตันในไตรมาสที่ 1 และขายสุทธิ 402 ตันในไตรมาสที่ 2 ทำให้ราคาทองคำร่วงจาก $1,674 เมื่อสิ้นปีก่อน ลงมาอยู่ที่ $1,300 ในปัจจุบัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงที่ราคาทองคำลงแรงจากการเทขายของกองทุน ETF กลับมีแรงซื้อ “สวน” เข้ามาจำนวนมาก ทั้งจากคนที่ต้องการซื้อเป็นเครื่องประดับ (เพื่อให้ของขวัญ ตามธรรมเนียมของคนจีนและอินเดีย) และจากคนที่ต้องการซื้อทองคำแท่งเพื่อลงทุน ... ว่ากันว่า 2 กลุ่มนี้ต้องการทองคำจริงๆ เป็นพวกซื้อเก็บระยะยาว แต่รอจังหวะอยู่นานเพื่อซื้อในช่วงราคาตกครับ
อีกข้อมูลที่น่าสนใจมาก คือ ในบรรดาประเทศที่เข้าซื้อ ‘ทองคำแท่งเพื่อการลงทุน’ ในรอบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยของเรามาเป็นอันดับ 4 ของโลก คือ ซื้อทองคำมากถึง 92.2 ตัน!!!
สรุป - ถ้าเราดูข้อมูลกันดีๆ จะพบว่า ความต้องการทองคำมาจากหลายแหล่ง การที่ทองราคาตกแรง มีสาเหตุหลักจากการเทขายของกองทุน ETF แต่ความต้องการทองคำเพื่อใช้ประโยชน์อื่น (เช่น เครื่องประดับ+อุตสาหกรรม+ลงทุนในทองคำแท่ง) ไม่ได้ลดลงไปด้วยครับ
เมื่อดูข้อมูล 5 ไตรมาสย้อนหลังจะเห็นได้ว่า ราคาทองที่ตกลงต่อเนื่องในปี 2013 เกิดจากแรงเทขายของกองทุน Exchange Traded Fund (ETF) ซึ่งมีการขายสุทธิจำนวน 177 ตันในไตรมาสที่ 1 และขายสุทธิ 402 ตันในไตรมาสที่ 2 ทำให้ราคาทองคำร่วงจาก $1,674 เมื่อสิ้นปีก่อน ลงมาอยู่ที่ $1,300 ในปัจจุบัน
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในช่วงที่ราคาทองคำลงแรงจากการเทขายของกองทุน ETF กลับมีแรงซื้อ “สวน” เข้ามาจำนวนมาก ทั้งจากคนที่ต้องการซื้อเป็นเครื่องประดับ (เพื่อให้ของขวัญ ตามธรรมเนียมของคนจีนและอินเดีย) และจากคนที่ต้องการซื้อทองคำแท่งเพื่อลงทุน ... ว่ากันว่า 2 กลุ่มนี้ต้องการทองคำจริงๆ เป็นพวกซื้อเก็บระยะยาว แต่รอจังหวะอยู่นานเพื่อซื้อในช่วงราคาตกครับ
อีกข้อมูลที่น่าสนใจมาก คือ ในบรรดาประเทศที่เข้าซื้อ ‘ทองคำแท่งเพื่อการลงทุน’ ในรอบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยของเรามาเป็นอันดับ 4 ของโลก คือ ซื้อทองคำมากถึง 92.2 ตัน!!!
สรุป - ถ้าเราดูข้อมูลกันดีๆ จะพบว่า ความต้องการทองคำมาจากหลายแหล่ง การที่ทองราคาตกแรง มีสาเหตุหลักจากการเทขายของกองทุน ETF แต่ความต้องการทองคำเพื่อใช้ประโยชน์อื่น (เช่น เครื่องประดับ+อุตสาหกรรม+ลงทุนในทองคำแท่ง) ไม่ได้ลดลงไปด้วยครับ