รถยนต์ของนักลงทุน


หนึ่งสิ่งสำหรับคนที่คนตั้งใจหาเงินตั้งเป้าหมายในการใช้จ่ายหลังจากวางแผน การเงินคือการซื้อรถยนต์ ไม่ว่าคุณจะเป็นคนมีเงินน้อยมีเงินมากแน่นอนที่สุดว่าเราเลือกที่จะหลีก เลี่ยงความจริงสำหรับชีวิตคนเมืองไม่ได้เลยว่ารถยนต์เป็นหนนึ่งในสิ่งอำนวย ความสะดวกแกชีวิตเรา และอีกหลายครั้งรถยนต์ก็เป็นหนึ่งในทางเลือกของรางวัลชีวิตที่ไม่ว่าคนอายุ น้อยหรืออายุมากมีมากหรือมีน้อยล้วนมีรถยนต์ที่ใฝ่ฝันกันในจิตนาการทั้งสิ้น ถึงบางคนจะมีแล้วแต่ก็อาจจะยังไม่จบสิ้นอีกเช่นกัน

โดยมากแล้วจากที่ผมอ่านเรื่องราวการลงทุนมาและอีกหลายคำแนะนำจากผู้เชี่ยว ชาญมักจะมีมุมมองต่อพาหนะเคลื่อนที่สิ่งนี้กันไปค่อนข้างเป็นทางลบกันเสีย มาก บ้างแห่งมักจะบอกว่าห้ามซื้อรถยนต์เลยซะด้วยซ้ำ จนทำให้เราสรุปสั้นๆได้ว่ารถยนต์เป็นศัตรูสำหรับนักลงทุนด้วยเหตุผลร้อยแปด ว่าทำให้คนเรามีภาระติดตัว บางคนอายุไม่มากก็มีหนี้ก้อนโตที่ต้องผ่อนชำระกันสี่ห้าปีแล้วแถมยังต้องโดน ดอกเบี้ยโขกสับอีกด้วย บ้างก็บอกว่ารถยนต์เป็นสินทรัพย์ที่มีแต่ค่าที่เสื่อมลงเอาทุกวันๆ เพราะฉะนั้นใครซื้อรถแปลว่าโง่
สำหรับผมแล้วการที่ด่วนสรุปอย่างที่เขียนข้างบนมามันถือว่าใช้ในชีวิตจริง ไม่ได้เลย ลองคิดง่ายๆสิครับคนแนะนำหรือที่ปรึกษาทางการเงินต่างๆนั้นล้วนขับแต่รถแพงๆ กันทั้งนั้นแล้วจะมาแนะนำทำไม แท้จริงแล้วคนเหล่านี้ก็แนะนำตามหน้าที่นั้นแหละ เหมือนกันกับนักวิเคราะห์ตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องแนะนำหุ้นทุกวันเพื่อเป็น หน้าที่นั้นแหละ อีกอย่างที่เอามาใช้จริงไม่ได้เลยเพราะชีวิตทุกคนล้วนมีภาระหน้าที่ๆต่างกัน หลายครั้งรถยนต์เป็นหนึ่งในตัวช่วยให้ชีวิตดำเนินได้เรียบง่ายขึ้นอย่างคุ้ม ค่าเพราะอย่าลืมว่าชีวิตเรามีต้นทุนเรื่องเวลาซึ่งเป็นหนึ่งในค่าเสียโอกาส ยิ่งกว่าเงิน


สำหรับคนที่อยากหาจุดลงตัวให้ได้แล้วผมมีคำแนะนำหรือมุมมองส่วนตัวที่พอจะ คิดว่ารถยนต์ของนักลงทุนนั้นควรจะเป็นอย่างไร ผมมีมุมมองว่านักลงทุนทุกคนมีหน้าตักทางการเงินที่ต่างกัน หรือเงินเก็บและทรัพย์สินในชีวิตนั้นแหละครับ อย่างแรกเลยเราต้องประเมินก่อนว่าเรามีเท่าไหร่และเราคาดการณ์แผนชีวิตอย่าง ไรต้องผ่อนบ้านหรืออย่างอื่นอีกไหม สำหรับผมในฐานะนักลงทุนอย่างน้อยที่สุดในการซื้อรถหนึ่งคันนั้นควรจะมีวง เงินขั้นต่ำจาก10-15%จากฐานทุนทั้งชีวิตที่เรามี เช่นหากคุณมีเงินและทรัพย์สินมูลค่าสิบล้านบาท คุณควรจะสามารถซื้อรถในวงเงินสัก 1.5 ล้านบาท เพื่อที่คุณจะได้เอาเงินที่เหลือไปต่อยอดหรือทำอย่างอื่นต่างๆได้อีกมากมาย และที่สำคัญชีวิตคุณปลอดภัยทางการเงิน สำหรับเรื่องการผ่อนนั้นต้องแล้วแต่วิจารณญาณนของเจ้าของรถว่าสามารถบริหาร ผลตอบแทนเงินต้นให้ชนะ ดอกเบี้ยผ่อนรถได้หรือไม่ถ้าทำได้ผมคิดว่าการผ่อนรถไม่ใช่สิ่งที่แย่เลย หนำซ้ำคุณยังรู้สึกสบายกระเป๋าอีกต่างหาก เว้นเสียแต่ว่าคุณเป็นคนขี้รำคาญไม่อยากมีภาระติดตัวก็จ่ายมันทั้งก้อนไปเลย ก็ง่ายดี การซื้อรถแล้วฐานทุนพอร์ทลดนั้นคงต้องอยู่ในกรณีที่คุณต้องการมันจริงๆ เพราะในความเป็นจริงหากฐานทุนคุณมากแล้วคุณสามารถเจียดเงินแค่เศษเสี้ยวจาก พอร์ทคุณมาได้
รถยนต์ที่เหมาะกับนักลงทุนเป็นอย่างไร?

ก่อนอื่นเลยรถยนต์ของนักลงทุนนั้นต้องมี concept ว่าคุ้มค่าแก่การลงเงินที่จะจ่ายไปสำหรับผมแล้วคุณค่าของรถยนต์ที่ดีต้องมอง ถึงการใช้งานก่อนเลย หากคุณจะซื้อรถหนึ่งคันกรุณาสำรวจชีวิตประจำวันของตัวเองก่อนว่าเราทำอะไร บ้างวันๆเช่นต้องไปรับลูกไหม ต้องขนของไปไหนมาไหนเยอะไหม มีสมาชิกครอบครัวกี่คนที่จะต้องใช้ชีวิตบนรถร่วมกับเราอย่างแน่นอนหรือแม้ กระทั้งต้องมีคนขับรถหรือไม่ ต้องการให้รถเป็นหน้าเป็นตาแทนคุณหรือไม่ พอคุณตั้งโจทย์เหล่านี้ได้คุณจะเห็นภาพว่ารถที่คุณควรจะใช้คงเป็นประเภท ไหนกระบะ รถเก๋ง รถตู้หรือสองประตูหรือ รถสปอร์ตสองประตู ว่าแล้วก็มาดูที่วงเงินกันอย่างของผมก็คือ 10-15%ของทรัพย์สินทั้งชีวิตหากมีสิบล้านก็มองรถสักล้านกว่าบาทก็น่าจะเป็น ตัวเลือกที่ผมถือว่า Conservative พอประมาณแล้ว หลักการต่อไปคือนักลงทุนที่ดีมักจะประเมินค่าเสื่อมของรถยนต์ แน่นอนครับรถยนต์ที่นักการเงินกลัวนักหนาก็คือไอ้พวกค่าซ่อมค่าเสื่อมเวลา ขายทิ้งนั้นแหละ ลองไปสอบถามคนที่ใช้ยี่ห้อนั้นอยู่แล้วว่าเป็นอย่างไรรับได้ไหมกับค่าเสีย หายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากซื้อมือสองต้องคำนึงถึงค่าซ่อมให้มากกว่าหน่อย สำหรับข้อสองนี้รถยนต์ที่ดีสำหรับนักลงทุนต้องซ่อมง่ายไม่ปวดหัว เข้าออกศูนย์แล้วสบายใจ ผมเห็นบางศูนย์เจ้าของรถต้องไปทะเลาะกับคนบริการตลอดเวลาแบบนี้ก็ถือว่าไม่ คุ้มเสียเลยจ่ายเงินแล้วยังต้องทะเลาะอีกไปใช้ยี่ห้ออื่นเถอะครับ ต่อมาก็มาดูปัจจัยสุดท้ายคือความสวยงามของมันผมให้เป็นอันดับสุดท้ายเลย เพราะผมมองในแง่นักลงทุน รถที่ซื้อต้องสวยหรือไม่สวยก็ควรอยู่ในวงเงินที่คุณตั้งมา หลายคนถามผมว่าคิดแบบนี้ได้ไม่มีทางได้ขับรถดีๆผมคิดว่าไม่จริงเพราหากคุณ ออมเงินหรือเก็บเกี่ยวทรัพย์สินของคุณได้ซักร้อยล้านแล้วคุณอยากจะซื้อรถคัน ละ7-10 ล้านบาทนั้นย่อมเป็นเรื่องสบายๆ ราคาที่เพิ่มขึ้นมาก็คือค่าของความสวยงามดูดี และความสุขที่ได้เป็นเจ้าของรถหรูที่คุณฝันมานาน


รถที่แพงกว่าก็น่าจะมีคุณภาพที่หรูหรามากกว่าแต่ไม่ได้แปลว่าดีกว่ารถยนต์ ที่ถูกกว่าเสมอไป หลายคนที่รักรถยนต์มากอยากจะเพิ่มอัตราส่วนเปอร์เซ็นที่จะซื้อรถก็สามารถทำ ได้หากคุณรักมากจริงๆและมองว่ามันเป็นรางวัลชีวิต สำหรับผมแล้วผมพอใจกับตัวเลขนี่ไม่มีตัวเลขที่ตายตัวของแต่ละคนมันอยู่ที่ ความต้องการของชีวิตคนๆนั้นหากคุณไม่ได้มีลูกหรือภาระคุณก็อาจะสามารถเพิ่ม ตัวเลขได้ ผมเชื่อว่ารถยนต์เป็นหนึ่งในความสุขโดยเฉพาะผู้ชายหลายๆคนแต่อย่าลืมว่าเรา สามารถหาความสุขได้อีกมากหลายทางและผมก็ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อรถกันแต่ผมเชื่อ ว่าเนื้อหาในตำราที่ห้ามจับจ่ายซื้อรถยนต์นั้นถ้ามาเทียบกับวิถีชีวิตคน ปัจจุบันวันนี้แล้วมันช่างดูเป็นไปได้ยากและห่างไกลมากแล้วผมจึงมองหาวิธี ที่น่าจะมีความสมเหตุสมผลมากที่สุดในแบบของผมและคาดว่าน่าจะทำให้ผู้อ่านทุก ท่านนำไปใช้ได้บ้าง หลายครั้งต้องประเมินว่าความต้องการมันมากระทบกับชีวิตเราขนาดไหนรับได้หรือ ไม่เป็นความสุขระยะยาวหรือระยะสั้น เช่นกันมันก็สร้างประโยชน์ให้ชีวิตเราได้อีกมากไม่ว่าจะเรื่องการเดินทางที่ สะดวกค่าพวกนี้ไม่เคยระบุลงไปในวิธีการประเมินของนักการเงิน สุดท้ายแล้วอย่าลืมอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ต้องมีคือความปลอดภัยของรถยนต์นั้น อาจจะสำคัญที่สุดเลยเพราะชีวิตเป็นสิ่งที่แลกกลับมาไม่ได้

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘