การลงทุนก็เหมือนกับการเลี้ยงวัว!?
จั่วหัวขึ้นต้นมาแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนต้องสงสัยแน่ๆ ว่าอยู่ดีๆ
ผมจะชวนทุกคนมาเปิดฟาร์มปศุสัตว์หรืออย่างไร? แต่จริงๆ
แล้วมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการออมและการลงทุน
ตามแก่นหลักของบล็อกนี้แน่นอนครับ
ใช่แล้ว! ผมนี่แหละจะชวนคนอ่านบล็อกทุกคนมาเปิดฟาร์มกัน เพียงแต่มันไม่ใช่ฟาร์มวัวหรอกครับ แต่วัวเนื้อ กับ วัวนม ก็หมายถึงหลักทรัพย์ รวมถึงหลักการในการเลือกลงทุนของเรานั่นเอง
คำถาม : ถ้าคุณสามารถเปิดฟาร์มวัวได้หนึ่งฟาร์ม คุณจะเลือกเลี้ยงอะไรระหว่าง “วัวเนื้อ” กับ “วัวนม”
ถ้าคุณเลือกวัวเนื้อ แสดงว่าคุณเป็นคนชอบกินเสต็ก! /ไม่ใช่ละ! อันที่จริงการเลือกวัวเนื้อในแง่มุมของการลงทุน ก็แสดงว่าคุณเป็นคนชอบอะไรที่ได้เป็นกอบเป็นกำอย่างรวดเร็ว ซื้อวัวมาก็ขุนให้อ้วนพี แล้วปล่อยขายไป ฟันกำไรเป็นเงินก้อนกลับมาทีเดียว แต่ก็เสียวัวไปหมดทุกตัว “ซื้อถูกขายแพง” ยังไงล่ะครับ
แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเลี้ยงวัวนม นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนที่ชอบอะไรที่มันเรื่อยๆ มาเรียงๆ เลือกที่จะเลี้ยงวัวเอาไว้เพื่อรีดนมจากมันทีละนิดๆ แล้วปล่อยขายออกไปเรื่อยๆ จนถึงจุดคืนทุนและกำไรในที่สุด เรียกได้ว่ามีเงินเข้ามาเรื่อยๆ เน้น “กระแสเงินสดอย่างยั่งยืน” เป็นหลัก
แล้วจะเลือกวัวเนื้อหรือวัวนมดีล่ะ?
ถ้ายกตัวอย่างให้วัว ถือเป็นสินทรัพย์อย่างคอนโดมิเนี่ยมห้องเดี่ยวย่านกลางเมืองแห่งนึ่ง ที่เราตั้งใจซื้อมาเพื่อ “เก็งกำไร” เพราะเราเห็นแล้วว่า ทำเลคอนโดฯ โซนนี้มันเป็นอะไรที่ดีมาก ด้านหลังเป็นห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ ด้านหน้ารถไฟฟ้ากำลังจะตัดผ่านในระยะกระชั้นชิด เข้าตำราฮวงจุ้ย หลังห้างคนหนา ด้านหน้า BTS อะไรแบบนั้น
ซึ่งพอคุณเห็นว่าคอนโดฯ ห้องนี้มันผ่านการพัฒนามาจากทำเล จากคุณภาพของตึก จากนิติฯ เรียบร้อยแล้ว คุณก็ตัดสินใจที่จะขายคอนโดฯ ห้องนี้ในราคาปัจจุบันที่สูงกว่าที่ซื้อมาเพื่อเก็งเอากำไรส่วนต่าง และนั่นแหละคือการขาย “วัวเนื้อ” (ผมข้ามพวกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็งกำไรอสังหาฯ ไปนะครับ)
คำตอบคือไม่มีถูกไม่มีผิดครับ
เพราะคนที่ปล่อยเช่าคอนโดฯ ก็ต้องรับความเสี่ยงกับอะไรอีกหลายอย่างที่ควบคุมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของผู้เช่า คุณภาพของนิติฯ ที่ดูแลคอนโดฯ นั้น คุณภาพของสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ฯลฯ และที่สำคัญก็คือ การดูแลคอนโดให้เช่านั้น “งานงอก” ไม่จบสิ้นแน่นอน ก็เหมือนกับวัวนมที่เราต้องดูแลประคบประหงม คอยรีดนมทุกวัน คอยทำความสะอาด ฯลฯ มากมาย
ดังนั้นเมื่อเทียบกับการเลี้ยง “วัวเนื้อ” หรือการปล่อยขายคอนโดฯ ไปเลยเพื่อกินกำไรส่วนต่างนั้น ปริมาณงานที่เราต้องทำในฐานะคนเลี้ยง ก็น้อยกว่าเห็นๆ
กลับมาคำถามเดิม แล้วคุณจะเลือกเลี้ยงวัวเนื้อหรือวัวนมดีล่ะครับ?
ใช่แล้ว! ผมนี่แหละจะชวนคนอ่านบล็อกทุกคนมาเปิดฟาร์มกัน เพียงแต่มันไม่ใช่ฟาร์มวัวหรอกครับ แต่วัวเนื้อ กับ วัวนม ก็หมายถึงหลักทรัพย์ รวมถึงหลักการในการเลือกลงทุนของเรานั่นเอง
คำถาม : ถ้าคุณสามารถเปิดฟาร์มวัวได้หนึ่งฟาร์ม คุณจะเลือกเลี้ยงอะไรระหว่าง “วัวเนื้อ” กับ “วัวนม”
ถ้าคุณเลือกวัวเนื้อ แสดงว่าคุณเป็นคนชอบกินเสต็ก! /ไม่ใช่ละ! อันที่จริงการเลือกวัวเนื้อในแง่มุมของการลงทุน ก็แสดงว่าคุณเป็นคนชอบอะไรที่ได้เป็นกอบเป็นกำอย่างรวดเร็ว ซื้อวัวมาก็ขุนให้อ้วนพี แล้วปล่อยขายไป ฟันกำไรเป็นเงินก้อนกลับมาทีเดียว แต่ก็เสียวัวไปหมดทุกตัว “ซื้อถูกขายแพง” ยังไงล่ะครับ
แต่ถ้าคุณเลือกที่จะเลี้ยงวัวนม นั่นหมายความว่าคุณเป็นคนที่ชอบอะไรที่มันเรื่อยๆ มาเรียงๆ เลือกที่จะเลี้ยงวัวเอาไว้เพื่อรีดนมจากมันทีละนิดๆ แล้วปล่อยขายออกไปเรื่อยๆ จนถึงจุดคืนทุนและกำไรในที่สุด เรียกได้ว่ามีเงินเข้ามาเรื่อยๆ เน้น “กระแสเงินสดอย่างยั่งยืน” เป็นหลัก
แล้วจะเลือกวัวเนื้อหรือวัวนมดีล่ะ?
ถ้ายกตัวอย่างให้วัว ถือเป็นสินทรัพย์อย่างคอนโดมิเนี่ยมห้องเดี่ยวย่านกลางเมืองแห่งนึ่ง ที่เราตั้งใจซื้อมาเพื่อ “เก็งกำไร” เพราะเราเห็นแล้วว่า ทำเลคอนโดฯ โซนนี้มันเป็นอะไรที่ดีมาก ด้านหลังเป็นห้างสรรพสินค้าเปิดใหม่ ด้านหน้ารถไฟฟ้ากำลังจะตัดผ่านในระยะกระชั้นชิด เข้าตำราฮวงจุ้ย หลังห้างคนหนา ด้านหน้า BTS อะไรแบบนั้น
ซึ่งพอคุณเห็นว่าคอนโดฯ ห้องนี้มันผ่านการพัฒนามาจากทำเล จากคุณภาพของตึก จากนิติฯ เรียบร้อยแล้ว คุณก็ตัดสินใจที่จะขายคอนโดฯ ห้องนี้ในราคาปัจจุบันที่สูงกว่าที่ซื้อมาเพื่อเก็งเอากำไรส่วนต่าง และนั่นแหละคือการขาย “วัวเนื้อ” (ผมข้ามพวกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการเก็งกำไรอสังหาฯ ไปนะครับ)
ขายของในราคาปัจจุบันที่สูงกว่าที่ซื้อมาเพื่อเก็งเอากำไรส่วนต่าง ก็เปรียบเสมือนกับการขาย “วัวเนื้อ”ส่วนคนที่ชอบ “วัวนม” นั้น ก็จะตัดสินใจปล่อยคอนโดฯ แห่งนี้ให้คนอื่นเข้ามาเช่า ซึ่งถ้าเราสามารถเรียกค่าเช่าได้ส่วนต่างจากค่าผ่อนชำระรายเดือนและค่าใช้ จ่ายอื่นๆ ได้ ส่วนต่างนั้นก็จะกลายมาเป็น กระแสเงินสด (Cash Flow) ที่จะเป็นรายได้เข้ากระเป๋าของเราทุกเดือน เหมือนกับการที่เราเลี้ยงวัวเพื่อรีดนมเอาไปขายนั่นเอง
กระแสเงินสด (Cash Flow) ที่จะเป็นรายได้เข้ากระเป๋าของเราทุกเดือน เหมือนกับการที่เราเลี้ยงวัวเพื่อรีดนมเอาไปขายนั่นเองแบบนี้เลี้ยงวัวนม (ปล่อยเช่าคอนโดฯ) ก็ดีกว่าใช่ไหมล่ะ?
คำตอบคือไม่มีถูกไม่มีผิดครับ
เพราะคนที่ปล่อยเช่าคอนโดฯ ก็ต้องรับความเสี่ยงกับอะไรอีกหลายอย่างที่ควบคุมได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของผู้เช่า คุณภาพของนิติฯ ที่ดูแลคอนโดฯ นั้น คุณภาพของสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ฯลฯ และที่สำคัญก็คือ การดูแลคอนโดให้เช่านั้น “งานงอก” ไม่จบสิ้นแน่นอน ก็เหมือนกับวัวนมที่เราต้องดูแลประคบประหงม คอยรีดนมทุกวัน คอยทำความสะอาด ฯลฯ มากมาย
ดังนั้นเมื่อเทียบกับการเลี้ยง “วัวเนื้อ” หรือการปล่อยขายคอนโดฯ ไปเลยเพื่อกินกำไรส่วนต่างนั้น ปริมาณงานที่เราต้องทำในฐานะคนเลี้ยง ก็น้อยกว่าเห็นๆ
กลับมาคำถามเดิม แล้วคุณจะเลือกเลี้ยงวัวเนื้อหรือวัวนมดีล่ะครับ?