" ความสำเร็จ " มักเกิดจากการ " ทุ่มเท "
ครั้งหนึ่งที่ผมทำทั้งงานประจำ ทั้งลงทุนหุ้น และทั้งเปิดบริษัทด้วยตัวคนเอง ทำ 3 อย่างพร้อมๆกัน
ชีวิตก็ไม่ได้สวยทุกวัน
วันไหนเพอร์เฟ็ค ก็ถือว่าฟลุ๊คไป ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นบ่อยหรอก คนคนเดียวจะทำได้สมบูรณ์แบบทุกเรื่องทุกวัน นั่นก็จะซุปเปอร์แมนไปหน่อย
แค่มีดีบ้างไม่ดีบ้าง นั่นก็โอเคแล้ว
แถมบางวันงานประจำปวดหัว หุ้นตก และงานส่วนตัวมีปัญหาอีก มะรุมมะตุ้ม 3 เด้ง นั่นก็เลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อจะถึงวันแย่ มันก็ต้องแย่ ให้ทำไง
ลองมาย้อนทบทวนว่า เราผ่านจุดนั้นได้อย่างไร ?
1. สำคัญเลย คือการวางแผนชัดในทุกส่วน ... เพราะเมื่อทราบเป้าหมายไกลๆ เมื่อเจอปัญหาบ้างระหว่างทาง จะรู้เลยว่านั่นเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอ แล้วก็รู้เช่นกันว่ามันจะผ่านไปให้เป็นเรื่องจิ๋วๆให้ขำๆ
2. การลงมือทำที่จริงจัง อะไรไม่ได้ไม่ผ่าน ขอลองอีก อะไรไม่รู้ ขอค้นเพิ่ม อะไรไม่สำเร็จ ขอซัดอีกครั้ง นอกจากได้ทำแล้ว ยังได้ความชำนาญอีก เพราะมีทำซ้ำ แบบต้องขอบคุณที่ไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
และ 3. มีสติ อยู่เสมอ รู้ว่ากำลังทำอะไร และรู้ว่าจะเจออะไร ทั้งแง่บวกและลบ ปรับแผนบ้างด้วยสติ ไม่เป็นคนตกใจง่าย เสียดายบ้าง แต่ไม่ท้อง่ายๆ
เส้นทางข้างหน้าผมยังมีเรื่องที่น่าท้าทายอีกมาก แต่จากจุดที่ก้าวเดินอยู่นี้ มันก็ไม่มีอะไรจะหนักกว่าช่วงหนึ่งที่ทุ่มสุดตัวสุดพลังทำตามฝันด้วยโจทย์ เวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าทุกๆคน
และผมเชื่อว่าคนที่เหนื่อยและลำบากกว่าผมยังมีอีกเยอะ ... เราอาจจะเห็นคนที่คุยด้วยชิลๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่แบกและทำภาระกิจที่ยิ่งใหญ่อยู่แบบไม่ปริปาก เพียงแค่รอเวลาที่ผลงานมาเล่าเรื่องราวนั้นเอง
เชื่อผมครับ ในชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จ จะมีช่วงที่ทุ่มเทสุดๆในการทำสิ่งที่ฝัน
และเรื่องเล่าของช่วงนั้นที่เอามาเล่าใหม่จะสนุก แม้ช่วงเวลาของความทุ่มเทจริงๆนั้นจะเหนื่อยหอบน้ำลายเหนียวคอก็ตาม
ตรงช่วงเวลาที่อยู่ ตรงนั้น หรือ ตรงนี้ ล้วนเป็นจุดเล็กๆในชีวิตที่ยาวไกล แต่ความสำเร็จจากความทุ่มเทเป็นเรื่องที่ยั่งยืน
ชีวิตก็ไม่ได้สวยทุกวัน
วันไหนเพอร์เฟ็ค ก็ถือว่าฟลุ๊คไป ซึ่งมันไม่เกิดขึ้นบ่อยหรอก คนคนเดียวจะทำได้สมบูรณ์แบบทุกเรื่องทุกวัน นั่นก็จะซุปเปอร์แมนไปหน่อย
แค่มีดีบ้างไม่ดีบ้าง นั่นก็โอเคแล้ว
แถมบางวันงานประจำปวดหัว หุ้นตก และงานส่วนตัวมีปัญหาอีก มะรุมมะตุ้ม 3 เด้ง นั่นก็เลี่ยงไม่ได้ ในเมื่อจะถึงวันแย่ มันก็ต้องแย่ ให้ทำไง
ลองมาย้อนทบทวนว่า เราผ่านจุดนั้นได้อย่างไร ?
1. สำคัญเลย คือการวางแผนชัดในทุกส่วน ... เพราะเมื่อทราบเป้าหมายไกลๆ เมื่อเจอปัญหาบ้างระหว่างทาง จะรู้เลยว่านั่นเป็นเรื่องปกติที่จะต้องเจอ แล้วก็รู้เช่นกันว่ามันจะผ่านไปให้เป็นเรื่องจิ๋วๆให้ขำๆ
2. การลงมือทำที่จริงจัง อะไรไม่ได้ไม่ผ่าน ขอลองอีก อะไรไม่รู้ ขอค้นเพิ่ม อะไรไม่สำเร็จ ขอซัดอีกครั้ง นอกจากได้ทำแล้ว ยังได้ความชำนาญอีก เพราะมีทำซ้ำ แบบต้องขอบคุณที่ไม่สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก
และ 3. มีสติ อยู่เสมอ รู้ว่ากำลังทำอะไร และรู้ว่าจะเจออะไร ทั้งแง่บวกและลบ ปรับแผนบ้างด้วยสติ ไม่เป็นคนตกใจง่าย เสียดายบ้าง แต่ไม่ท้อง่ายๆ
เส้นทางข้างหน้าผมยังมีเรื่องที่น่าท้าทายอีกมาก แต่จากจุดที่ก้าวเดินอยู่นี้ มันก็ไม่มีอะไรจะหนักกว่าช่วงหนึ่งที่ทุ่มสุดตัวสุดพลังทำตามฝันด้วยโจทย์ เวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่าทุกๆคน
และผมเชื่อว่าคนที่เหนื่อยและลำบากกว่าผมยังมีอีกเยอะ ... เราอาจจะเห็นคนที่คุยด้วยชิลๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่แบกและทำภาระกิจที่ยิ่งใหญ่อยู่แบบไม่ปริปาก เพียงแค่รอเวลาที่ผลงานมาเล่าเรื่องราวนั้นเอง
เชื่อผมครับ ในชีวิตคนที่ประสบความสำเร็จ จะมีช่วงที่ทุ่มเทสุดๆในการทำสิ่งที่ฝัน
และเรื่องเล่าของช่วงนั้นที่เอามาเล่าใหม่จะสนุก แม้ช่วงเวลาของความทุ่มเทจริงๆนั้นจะเหนื่อยหอบน้ำลายเหนียวคอก็ตาม
ตรงช่วงเวลาที่อยู่ ตรงนั้น หรือ ตรงนี้ ล้วนเป็นจุดเล็กๆในชีวิตที่ยาวไกล แต่ความสำเร็จจากความทุ่มเทเป็นเรื่องที่ยั่งยืน