ถอดเทปสัมภาษณ์ชีวิตคุณครูไม่ใหญ่ (ตอนที่ 2) หน้า 03

แล้วไอ้ห้องที่อยู่ที่คอกวัวนะมันเป็นมุ้งลวด แต่มุ้งลวดที่ต้องมีมุ้งกางในห้อง ก็คิดดูสิ ไปดึกๆมันหลับกันไปแล้วหนิ พวกมาทีหลังก็มาเปิดกลอนข้างใน จะเปิดกลอนข้างในได้ก็เอามือชน ปึ้ง มุ้งลวดขาดก็ล้วง ตอนเช้าเอาหนังสือพิมพ์ปิด (หัวเราะ) พอเปิดทีก็ทะลุพรวด มันง่ายดี เลยต้องกางมุ้งในมุ้งลวด และก็คุยกันเรื่องธรรมะเนี่ย ถามปัญหากัน แล้วมีอยู่วันที่หลวงพ่อแปลกใจนะ กลับมาเห็นท่านนั่งสมาธิอยู่ โอย เสียงคนทุบไอ้ช่องลมรอบบ้านเลย ตีงๆๆๆรอบบ้านหมด โผล่ไปเอ๊ะไม่เห็นมีคนเลย คนที่จะเคาะได้ หนึ่ง อย่างน้อยต้อง.... สอง ต้องตัวสูงซัก ๔ - ๕ เมตร ถึงจะไอ้ยังงั้นได้ ก็เอ๊ะไม่เห็นมีใคร ก็ถามท่านว่า "เคาะเนี่ยมากี่วันแล้ว?" ท่านบอกว่า ๑๙ วัน เคาะอย่างเงี้ยทุกวันเลย พอออกไปก็ไม่เห็นมีใคร ก็ช่วงนั้น พอ.....สมาธิท่านดีนะ เสกคาถา (หัวเราะ) พอสมาธิดี แหมจะเข้าไปถึงทำไง หยุด หยุดแล้วก็ว่าคาถา คาดปูนที่หน้าอก แล้วก็นอน (หัวเราะ) แหม ....ออกอย่างนั้นนะ ปูน เอ๊ะนี่ก็แปลกเหมือนกัน ปูนปาด ปูนกินกับหมาก ท่านเสกแล้วมันหวานๆไม่.... คาดเสร็จ อ้าวทีนี้เราคุย

คือในตอนช่วงแรกหลวงพ่อไม่ได้ชวนท่านไปหายาย ท่านอยากจะไป แต่บุคคลิกชาเย็นพอเรียกแล้วหันขวับอย่างเงี้ยนะ มีหวังโดนไล่ออกมาล่ะ หลวงพ่อต้องสัมมนาอยู่ตั้งหลายเดือน หลวงพ่อทัตตะเนี่ย กว่าจะพาไปหายายได้ "พี่เด็จนะ [หลวงพ่อทัตตะชื่อเดิมว่า เผด็จ] คำพูดนี้ยายไม่ชอบนะ" นั่งอย่างนี้ก็ไม่ชอบ อย่างนี้ก็ไม่ชอบ อย่างนั้นก็ไม่ชอบ ก็เลยต้องมาบอกท่าน (หัวเราะ) อย่างงี้ยายชอบ ถ้าอย่างนี้ชอบ ท่านก็.... แล้วพูดเสียงต่ำๆคอเกร็งๆ เดี๋ยวนี้ไม่ได้ใช้เสียงอย่างงี้ หายไปไหนก็ไม่ทราบ หลายปีเหมือนกันน่ะ แต่ก่อนใช้เรื่อย เคยนะเคยเจอที่ท่านใช้ แต่เสียงท่านดังและมีอำนาจนะ ........เงียบเลย .... หยุดเลย กลัว แล้ว[หลวงพ่อทัตตะสมัยนั้น]คว่ำวัวได้ จริงๆ ....วิ่ง....วัววัวนอนเลยนะ คว่ำวัว แข็งแรง ....ไม่น่าเชื่อเลย แล้วไหงมาเป็นยังงี้ก็ไม่รู้ ตอนนี้เดินยังกับวัวท้อง (หัวเราะ) คง.....แล้วนี่ ตอนนั้นหุ่นจริงๆหุ่นเหมือนแซมซั่นยังไงยังงั้นเลย .....มากๆเลย แล้วก็คุยกับท่านไปอย่างงี้ สัมมนาอยู่...เดือนหรือไงก็พาท่านเข้าไปหายาย ขนาดสัมมาอยู่หลายเดือนว่าดีแล้วนะ เจอคุณยาย "คุณยาย ผมอยากจะลองเอาปรอทปล่อยใส่คุณยายครับ" (หัวเราะ) สะกิดแล้วบอก ปัดโธ่ อย่างนี้ยายไม่ชอบ แหมพูดมาตั้งนาน ....ทดลองกับยาย จะเสกปรอทใส่คุณยาย ยายท่านก็บอกให้ไปลองกับหลวงพ่อก่อน เนี่ยมันมายังเงี้ยเนี่ย ต้องมาสัมมนากัน ใหม่ๆท่าน โห ไม่รู้จะบอกยังไงจริงๆเลยเนี่ยกับหลวงพ่อทัตตะ แล้วเสร็จแล้วก็พอจะเชื่องขึ้นท่านก็ค่อยๆอบรมๆ อบรมจนกระทั่ง..... แต่การตั้งตั้งสัจจะของหลวงพ่อทัตตะท่านจะมีเป็นช่วงๆ แล้วมาตั้งสัจจะในวันเกิดคุณยาย สัจจะที่..... ท่าน.....ตอนนั้นอายุ ๒๖ .... "ถ้าจะแต่งงาน.....ท่านต้องมีประกาย....จะได้สร้างบารมีรวมกันไป" อ๊ะ ปล่อยไว้ก่อน ก็ยังดี พออีกทีนึงก็ "ถ้าเลย ๓๐ ปีแล้วก็ไม่แต่ง" อืม......(หัวเราะ)

[ช่วงต่อไปนี้เสียงเทปขาดๆหายๆมาก]

โอ้ย สารพัดเลยมันเป็นอย่างงี้ กว่าจะมารวมกันได้นี่หืดขึ้นคอเลย ยายนี่....ท่านก็ยังนึก......ยังไงก็ไม่รู้ เอามารวมกัน พอมารวมกันมากเข้าก็ ก็เริ่มตั้ง.... แต่กว่าจะทำอย่างนี้.....มันมีมาเมื่อ.... พออายุได้.... มัน.... อายุ ๒๕ มันจำไม่ค่อยได้แล้ว ....คือพอมันดิ่งธรรมะเข้าไปข้างใน มันทราบว่าเกิดมาทำไม อะไรคือเป้าหมายของชีวิต พอรู้เห็นใน....มากเข้าได้คำตอบ.....จากการปฏิบัติธรรม ....ตอนนี้ก็เริ่มทำวิชชาตามหมู่พวกที่จะมารวมกัน เวลาดิ่งงานทำธรรมะทำต่อไปก็ตั้งผังไปด้วยทำธรรมะไปด้วย ตามพวกที่ยังกระจัดกระจายไปอยู่ที่ไหนเอามารวมกัน และนั่นแหละ หลวงพ่อทัตตะเป็นคนแรก แล้วท่านก็ไปตาม....วิริยะมา (หัวเราะ) โอ้ นี่พิลึก ตามมา หลวงพ่อทัตตะท่านบอกให้หลวงพ่อ อะไรอะ ปลุกพระ (หัวเราะ) โอ้โห ท่านปลุกเนี่ย หลวงพ่อวิริยะ เม็ดเลือดมันก็ต่ำ ตัวแดง....เลยหนะ เป็นผื่นแดงหมด ตาแดงยังกับ... ตาเนี่ย....ขึ้น ไม่ทราบไปปลุกอีท่าไหนกันเนี่ย หลวงพ่อวิริยะเลยบอกไม่เชื่อแล้วอย่างงี้ ....ไปปลุกพระ.. ไม่เอาแล้ว ตั้งแต่....เรียนธรรมะ...สอนยังไงก็ไม่ทราบ ....แล้วให้อัดลมหายใจ ....หายใจไม่ออก....ตัวสั่น พอตัวสั่นก็...กระโดด...ขั้นตอนมันเป็นอย่างงั้นหนะ คือท่านให้อัดลมหายใจเข้าไป แล้วกลั้นเอาไว้ ....ลองกลั้นลมหายใจดู....ทุรนทุราย....ก็ตัวสั่น ....เต้น...เพราะฉะนั้นจะให้.....มันไม่ยากเลย ทำอย่างที่หลวงพ่อว่านั่น.....มันหายใจไม่ออก เมื่อหลวงพ่อวิ....น้ำตาท่านทะเล็ด.... (หัวเราะ) ... เลยเลิก แล้วก็มาเรียนธรรมะ.....

....ตามมานั่น มีหลวงพ่อกับยายสองคนเท่านั้นแหละ ก็คุยกันสองคนกับยาย วันทุกวัน...ว่าเกี่ยวกับเรื่องธรรมะ ตามคนมารวมกัน ตามมาเรื่อยๆๆ ตามเมื่อปี ๐๗ หลวงพ่อทัตตะมาปี ๐๙ ท่านกลับมาจากออสเตรเลีย ก็จากนั้นก็มาเรื่อยเลย ทีนี้คนก็แน่นบ้านเลย แน่นบ้านหลังเล็ก บ้านยายที่อยู่ในวัดปากน้ำฯน่ะ เป็นบ้าน ๓ ชั้นนะ สูง..... ชั้นแรกชั้นใต้ถุน นั่งได้ยืนไม่ได้ ....ไปดูสิ...พื้น... ชั้นแรก ชั้นสองเป็นชั้นที่ยายอยู่ ชั้นสามมันสูงกว่านั้นไปอีก....นึง บ้านยาย ๓ ชั้น แต่คิดเนื้อที่ที่มีคนนั่งก็.....มันมีระเบียงหน่อย...เป็นตู้ และก็มีเก้าอี้ตูดขาดสองตัว ก้นมันขาดๆแต่ว่ามันแพล็บเลย คือท่านขัดซะ....  ......ก็เอาไปซ่อม.....มันดีเหมือนกัน ...แย่งกันนั่ง แปลกดีเหมือนกัน ...มีน้ำ....บริการตัวเอง หน้าบ้านมีตุ่มน้ำเรียงกันอยู่ ......ก็มากันช่วงนี้....คนมานั่ง วันอาทิตย์ต้นเดือน....ยังงี้,..แต่ไม่มีใครสนใจใคร จะมาเอาบุญกันอย่างเดียว .....เต็มหมดเลย ล้นไปจนถึงหน้าบ้าน ริมตุ่มน้ำ....เต็มหมด... ทางเดินนั่น... ยองๆนั่งที่ตุ่มน้ำก็มี ....ยืนก็มี ....หลวงพ่อก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เสร็จแล้วก็เลยมีดำริว่าจะ....บ้าน..... ก็มี....ในช่วงนั้น และในที่สุดก็รวบรวม.....สร้างบ้านกันได้ สร้างอยู่......เมื่อวันที่ ..... ตุลา ๑๐

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘