ถอดเทปสัมภาษณ์ชีวิตคุณครูไม่ใหญ่ (ตอนที่ 1) หน้า 09

พอมันทำได้ผลเท่านั้นวิชาอะไรก็ไม่อยากจะเอาแล้วน่ะ เพราะฉะนั้นในเทอมหลังนี่หลวงพ่อก็เลยไม่ตั้งใจเรียน นอกจากไม่ตั้งใจเรียนแล้วก็ไม่ค่อยได้เรียน เพราะมองไปที่กระดานเนี่ยก็เห็นเป็นเรื่องธรรมะหมด ทะลุ มองอะไรมันก็ทะลุไปหมด แล้วก็มีแต่ความสุข ใจมันอยู่แต่ในข้างในอยู่ตลอด มันมีความสุข ดังนั้นพอสิ้นปีหนึ่งเข้า ตอนนี้ก็ตัดสินใจแล้วว่า มันอยากจะมาเรียนจริงๆจังๆซักที นี่หลวงพ่อเล่ากลับไปกลับมานะ เลยเป็นเหตุให้หลวงพ่อตัดสินใจอยู่คืนนึง ตอนนั้นจะไปเรียนธรรมะแล้ว ไม่เรียนก็ไม่เรียนแล้ว แล้วก็เก็บเสื้อผ้าได้สองสามชุดใส่ไว้ในกระเป๋าเวลาเย็น แล้วก็ออกมานอนข้างนอก ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวเลย พอตี ๔ เก็บของอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วหลวงพ่อก็กราบโยมพ่อที่หน้าประตู ไม่กล้าไปปลุก เดี๋ยวก็ไม่ได้ไป พอกราบเสร็จก็ไปเลย พอไปก็เอามือล้วงกระเป๋าไม่มีเงินเลยซักสลึง แต่ใจมันก็เฉยๆไม่วิตกกังวลว่าจะมีกินหรือไม่มีกิน อนาคตจะเป็นยังไงตายก็ช่างมัน แล้วก็คิดไปเรื่อยๆว่าถ้าหากว่าขึ้นรถแล้วกระเป๋าเค้าจะมาเก็บตังค์เราก็จะบอกเค้าว่าไม่มี ถ้าเค้าเชื่อเราจะบอกเค้าต่อว่าวันหลังจะเอามาใช้ให้ แต่ถ้าตอนนั้นเค้าไม่เชื่อเค้าให้เราลงไปเราก็จะเดินไป จากเพชรบุรีจะเดินไปที่กรุงเทพฯ คิดแค่นั้นแล้วก็ไม่คิดอะไรต่อ


ทำธรรมะไปอย่างเดียวจนกระทั่งขึ้นรถ บุญบันดาลก็ให้ได้พบเพื่อน เพื่อนรักกันเลยทีเดียว ไม่เคยคิดว่าจะมาตอนเวลาเดียวกัน เค้าเรียนธรรมศาสตร์ พอขึ้นไปคุยกันไปคุยกันมาก็กระซิบข้างหูเค้าบอกว่าไม่มีตังค์เลย เค้าก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อก็พิสูจน์ให้เค้าดู พอพิสูจน์ให้เค้าดูเค้าก็แปลกใจ การตัดสินใจของหลวงพ่อในคราวนั้นน่ะที่จะมาเรียนธรรมะเป็นเหตุให้ได้สมบัติถึงครึ่งหนึ่ง เพราะเพื่อนเค้าควักกระเป๋าตังค์มามีเงินอยู่ ๓๐๐ บาท เค้าแบ่งให้หลวงพ่อ ๑๕๐ บาทเท่ากับครึ่ง ได้สมบัติมาครึ่งหนึ่ง เพราะว่า ๑๕๐ บาทของเขานี่มันหมายถึงชีวิตของเขาเพราะว่าเค้าก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ฐานะก็ไม่ค่อยดี จากนั้นเค้าก็ถามว่าแล้วจะไปอยู่ที่ไหน บอก "ยังไม่รู้" เค้าก็เลยชวนไปนอนบ้านเค้า ที่บ้านเค้าเป็นโกดังเก็บของ ข้างล่างเก็บน้ำตาลอะไรต่างๆเยอะแยะ แล้วเราก็นอนข้างบน พอตอนเช้าเค้าไปธรรมศาสตร์ หลวงพ่อก็เข้าวัดมาเรียนธรรมะ ตกกลางคืนก็มาเจอกันแล้วก็คุยกัน คุยกันคนละเรื่องแต่คุยกันได้ พอเค้าคุยเรื่องธรรมศาสตร์ เราก็เออๆๆดีๆๆนะ แหมดี พอเค้าจบเรื่องธรรมศาสตร์เราก็ว่าเรื่องวัด เค้าก็เออๆๆดีๆ พอเราจบเรื่องวัดเค้าก็ว่าเรื่องธรรมศาสตร์ คุยกันคนละเรื่องอย่างงี้แต่มันก็คุยกันได้ มันยังไงก็ไม่รู้เหมือนกันน่ะ คุยกันได้ อยู่ด้วยกันได้ ไม่ขัดคอกันเลย (หัวเราะ) คุยกันได้ยังไงก็ไม่ทราบ


เรียนอย่างมีความสุขเลยจนกระทั่งวันหนึ่ง เรานั่งธรรมะกับยาย โห นั่งในที่เห็นโยมพ่อมาตาม ตอนนี้เดินมาถึงตรงนั้นละ เดินเลยบ้านยายละ เอ๊ะ มันจริงรึเปล่านะ โผล่หน้าต่างไปดู โอ้..จริงด้วย (หัวเราะ) ตายแล้ว โอ้ ตอนนั้นมันบอกไม่ถูกน่ะ กลัวที่สุดในโลกเลยคือกลัวโยมพ่อ ไม่กลัวอะไรล่ะ กลัวโยม ด้วยความกลัวโยมนะเลยมาบอกกับยาย "ยาย ถ้าพ่อมาถามหา บอกไม่อยู่นะ" ยายท่านก็ไม่รู้เรื่องหนิ ท่านก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อเห็นอะไร เพราะหลวงพ่อไม่ได้บอกอะไรเลย คุณยายก็เอ้อ ท่านก็พยักหน้าไปอย่างงั้นแหละ แล้วหลวงพ่อก็เข้าห้องน้ำเลย ไอ้ห้องน้ำนี่มันติดกับโรงก๊วยเตี๋ยว มีช่องหน้าต่างเล็กๆแค่ตัวลอดที่เปิดออกไปใช้ไม้ดัน และก็ไอ้โรงก๊วยเตี๋ยวนั่นทำก๊วยเตี๋ยวแผ่น ที่เค้าตากเป็นแผ่นๆนะ หมามันดุจังเลย แต่กลัวโยมพ่อมากกว่ากลัวหมา (หัวเราะ) พุ่งหลาวลงไปเลย หลวงพ่อพุ่งหลาว วื้ดลงไปเลย และมันบุญบันดาลจริงๆเลยวันนั้นหมาไม่อยู่ แต่ถ้าหมามาเนี่ยเดี๋ยวจะใช้คาถา "นะไอ้จอหางเอ็งงอเหมือนข้าวฟ่าง เอ็งเอ็นดูข้าบ้างนะไอ้จอหางงอ" (หัวเราะ) เสียดายไม่ได้ลอง เสียดายจริงๆไม่รู้ขลังรึเปล่าไอ้ตอนนั้นนะ แต่ว่าไม่เจอหมา เพราะว่าพระเพรอะมันกัดหมด ดุจะตายไป แต่ตอนนั้นไม่เจอ

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘