ถอดเทปสัมภาษณ์ชีวิตคุณครูไม่ใหญ่ (ตอนที่ 1) หน้า 04

[ช่วงต่อไปนี้เสียงเทปขาดๆหายๆมาก]


แล้วไอ้... ตอนเรียนหนังสือนี่....คุณปู่คุณย่าไม่อยู่ไปจับนกกระจอก หลวงพ่อก็อยู่คนเดียวนอนอยู่ ตอนแรกก็นอนอยู่ในมุ้งคนเดียว พอตกดึก... ๑ คนกับ ๒๔ ตัว.. นอนบน....อยู่กับ....หมาหมด มา..เอาหัว...บางตัวก็...ก่ายกันไปอยู่อย่างงั้นแหละ ๑ คนกับ ๒๔ ตัว ทีนี้มา...ได้ยินเสียง เสียงกระซิบอยู่ตรงประตู ....... ที่...หลวงพ่อเนี่ย ได้ยินชัดเจนเลย เสียงนั้นอยู่ตรงประตูแต่ว่าเสียงนั้นมันเย็น ...ยินไกลๆ เป็นเสียงที่พูด....ตรงประตู ไม่เห็นตัวคน คล้ายๆเราเปิดไอ้ละครหนังผีอะไรนั่นน่ะ แล้วที่เค้าเอามาเลียนเสียง....มันจริงๆเลย ทำให้....หลวงพ่อเข้าใจ....อย่างงั้น เสียงนั้น....เป็นเสียงคล้ายๆโยมน้าก็ไม่ได้.... แต่มันก็แปลก หมามันไม่หอน ใครว่าหมาเห็นผีแล้วหอน เอ๊ะ ไอ้นี่มันไม่หอน .....ก็ตามมา พอเสียงนั้นไปอยู่ที่หัวบันได หลวงพ่อเดินมาที่หัวบันได เสียงมันก็ไปอยู่เชิงบันได หมาตามมาเป็นพรวนก็ไม่เห็นมันหอนอะไรมันเห่าอะไร พอหลวงพ่อเดินลงมาที่เชิงบันไดเข้า เสียงมันก็ไปอยู่ที่ประตูรั้ว นี่มันแปลกดี เดินตามไปที่ประตูรั้วเปิดประตูไปก็ไม่มีใคร ก็ไม่ได้กลัว เพราะไม่รู้มันเป็นอะไรก็ไม่ได้กลัว มารู้ว่าเป็นอะไรเมื่อมาเรียนธรรมะเมื่อโตขึ้นแล้ว เนื่องจากที่ตรงนั้นมันมีศาลพระภูมิใหญ่ๆเป็นที่เคารพของคุณปู่คุณย่า ตอนเย็นท่านจะให้เอาดอก....ก้นธูปแล้วก็ไปปักอยู่ตรงนั้นน่ะ ทุกวันๆท่านก็ให้ทำอย่างนั้น .......หลังจากนี้......อันนี้เป็นครั้งที่สองในชีวิต


อยู่โรงเรียนนั้นได้ ๒ ปีหลวงพ่อก็ย้าย ย้ายมาอยู่ ร.ร.สตรีเนติศึกษา [ไม่ทราบว่าสะกดอย่างไร] ตรงราชวัตร..... ก็ไปอยู่ .... ป.๔ ตอนอยู่ ร.ร.สตรีเนติ เนี่ยหลวงพ่อยัง....นี่เลย อาคาร......ตรงเนี้ย โยมพ่อก็ฝากท่านเอาไว้เหมือนกัน ซึ่งทำให้หลวงพ่อได้ไป.....เป็นครั้งแรก ......อนุสาวรีย์.....ยังไม่มีรั้วเลย ลุงครูใหญ่พาไปจับจิ้งหรีดตรงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ....ป.๔...อยู่กับโยมพ่อ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้อยู่กับโยมพ่อเป็นเรื่องเป็นราว อยู่ที่สิงห์บุรี ก็มีปรากฎการณ์ที่แปลกๆเหมือนกันเป็นครั้งที่สามในชีวิต แต่ครั้งนี้กลัว ไอ้ครั้งหนึ่งครั้งสองมันไม่รู้เรื่องมันไม่กลัว ...พักที่หลวงพ่อ.....มัน.... นอน.... มีอยู่วันนึงโยมพ่อ ..... ท่านบอกว่า .... อู้ย ดีใจ .... ฟังไม่รู้เรื่อง .... ก็เลย พ่อ เอาเลย ....หามาเลย... ดีใจ ....พ่อสามารถหามาชื่อเดียวกันได้ .... ชื่อเดียวกันเลย เพราะฉะนั้น .... ต่อด้วยนามสกุลใครไม่รู้หรอก (หัวเราะ) .... โยมพ่อ อย่าเป็นลมนะ (หัวเราะ) และก็ไอ้ที่ปรากฎการณ์ครั้งที่สามมันเป็นอย่างงี้ พอพ่อไปคืนนั้นก็นอน ....พอลืมตา.... หลังห้องนั้นน่ะ... พอเปิดออกไป.....วัด...เล็กๆ ..แปลกตา ตกกลางคืนเรานอน....ปิดหน้าต่าง ..... ก็นอน พอมาคืนสอง.... เอ๊ .... ไม่ได้นอนคนเดียว มีคนมานอนอยู่ข้างๆ อืม เข้ามายังไงก็ไม่ทราบ .... คนนอนอยู่นั่น ติดกันเลย ถ้าเป็นตัวมันก็เห็น.....อุ่นๆมา ....แต่หลวงพ่อไม่กล้าพลิกไปดู แต่..... เอ ทำไงดี สงสัยใครเข้ามานอน ...แต่...มาก....แต่ยังไงก็ไม่ร้อง ตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าเมื่อไหร่.... ลอบเข้าประตู.... มันจะมาเมื่อไหร่ .... คนที่อยู่ข้างๆไม่รู้ใคร เข้ามาอยู่ในนั้นน่ะ โหย เราก็..... เหงื่อนี่แตก.... แต่ไม่รู้ว่า....หันไป... มันยังไงก็ไม่ทราบ มันไม่กล้า .....หมดไปเลย... คนเลย..นอนอยู่ข้างๆ พอ....จากห้องก็....ไม่หันกลับไปอีกเลย ไม่กลับเลย เลิก....กลัว ตอนนั้นน่ะ... มันไม่เป็นธรรมชาติ ....ไม่รู้ว่าเป็น... ตอนหลังมาเรียนธรรมะ อ๋อ....ถึงได้ทราบ ....มนุษย์น่ะ [เสียงอุบาสิกาถาม] ห๊ะ..(หัวเราะ) .....อะไรก็ไม่รู้.... ตอนเล่นอยู่กับเพื่อน...โรงเรียน ที่กลางสนามคนเดียว ...ว่าใคร เอามือมาโอบไหล่ จับ...รู้สึก...คนอีกน่ะจ่ะ ...เพราะไปใหม่ๆ ...คนเดียว ...ตัวเอง .... ความรู้สึก... ขนลุก มารู้เมื่อมาเห็นธรรมะ แต่วันหลังแล้วก็.....ยุ่ง .... (หัวเราะ)


หลังนั้นก็มาอยู่ที่บ้าน..... เป็นเหตุให้หลวงพ่อเบื่อไอ้ตรงเนี้ย ....กว่าปี เบื่อ.....ไอ้ที่เบื่อไม่ใช่อะไรหรอก ...ได้ทาน.... หรือวันละหลายมื้อ เรื่องมันไม่เคยได้ทาน....เลย พอทานครั้งเดียวแล้ว....ก็มี เรียกว่าไม่เคยทาน.... มีอยู่วันนึงเราอยากจะทาน ก็ไปคว้า...มันยังดิบอยู่....ใส่กระเป๋ากางเกงเนี่ย คิดว่า....ตัวของเราเนี่ยคงจะสุก.... ปล่าว (หัวเราะ) มันน่าจะสุก เพราะว่าเจ็งกีสข่านเวลาออกไปรบมันเอาไอ้นั้นไปใส่ใต้อานม้าและก็นั่งทับ ....ตัวคนแล้วก็.... รบ .... นึกว่าเอาใส่กระเป๋ามันคงเหมือนกัน มันไม่เหมือนกัน พอ....ออกมาเท่านั้น โอ้โห อาเจียนซะไม่มีดีเลย ตั้งแต่วันนั้นมาเบื่อกุนเชียง....กว่าปีมานี้ เพราะเอากุนเชียงใส่กระเป๋านั่นแหละ .....ไม่ทราบว่าเป็นยังไง (หัวเราะ) เออ เหตุแห่งการ...เพราะทานทุกวัน แต่ครั้งเดียวเท่านั้นแหละ ....แข็งดี ....กุนเชียงได้ ...ไอ้ภาพนั้นมันมาอยู่ตลอดเวลา พอหลังจากนั้นก็มาเข้า ร.ร.สวนกุหลาบ แต่..... หลวงพ่อ..... อยู่คนเดียว..... มันก็เลยคุ้น ...ตอนนี้แหละมันเป็นความรู้สึกที่แปลกดี ก็.....มันลึก...ได้ยินได้ฟังผู้ใหญ่คุยกันเรื่องลึกๆลับๆ ...เรื่องธรรมะ เรื่อง..... เรื่องอัศจรรย์อะไร..... หลวงพ่อ..... คือมองเห็นไอ้ท้องฟ้าสีเขียว....ใหญ่ไปให้เหมือนฟ้าครอบ....  เอ๊ ไอ้สุดนี่มันที่ตรงไหน ...มันเหมือนมีสิ่งอะไร ......เราอยากจะไปสุดฟ้าครอบ.....เข้าใจความหมาย......นึกคิด.... เนี่ยตอนนี้หลวงพ่อได้.....เอาไว้ บันทึกเอาไว้ว่า จะเลือกเดิน.....จะเดินทางไหน เป็นไปได้สองทาง ถ้าไปทางโลก.....ให้สูงที่สุด เป็นผู้นำ หรือเป็นมหาเศรษฐีของโลก .... ที่ใจบุญ ให้ได้ทำทานได้อะไร ในใจคิดอยู่อย่างนั้นน่ะ ถ้าทางธรรมก็ .....ให้สูงที่สุดแห่งธรรม และให้ได้นำธรรมะไปทั่วโลก ตอนนั้นก็คิด อายุได้ประมาณ ๑๓ - ๑๔ อะไรแถวๆนั้น ...ได้จดเอาไว้

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘