คำถาม : วิชชาธรรมกายติดอยู่แค่ระดับฌาน
โดยฌานมีสองระดับคือ ฌานโลกียะ กับฌานโลกุตระ ฌานโลกีย์ คือฌานของ กายที่เป็นโลกียะ คือ ตั้งแต่กายมนุษย์ กายทิพย์ กายพรหม กายอรูปพรหม ล้วนเป็นฌานโลกีย์ทั้งสิ้น ส่วนฌานโลกุตระ ก็คือฌานของกายที่เป็นโลกุตระ (พ้นโลก) ซึ่งก็คือ ตั้งแต่ระดับ ธรรมกายโคตรภู ธรรมกายโสดาบัน ธรรมกายสกิทาคามี ธรรมกายอนาคามี ขึ้นไป จนถึงธรรมกายอรหัตต์ มีฌานเหมือนกัน แต่เป็นฌานโลกุตระ
ฌานก็เปรียบเหมือน การที่เราจะข้ามฝั่ง ฌานทั้ง 8 นี้ก็เปรียบเสมือนเรือ ที่จะส่งให้เราข้ามฝั่งได้ แล้วถามว่าเมื่อถึงฝั่งแล้วเราจะยังอาลัยในเรือที่นั่งอยู่นั่นอีกหรือเปล่า ก็เปล่าเลย เราขึ้นฝั่งได้แล้วเราก็ไม่สนใจเรือนั่นอีก รูปฌานกับอรูปฌานก็เหมือนกัน จะว่าเป็นภูมิของสมถะหรือวิปัสนาผมก็ไม่ทราบได้
ทราบแต่ว่าเมื่อเราใช้ฌานเป็นเหมือนพาหนะส่งให้ถึงนิพพาน เราก็ไม่จำเป็นต้องไปติดหรืออาลัยอาวรณ์กับมันอีก ที่สำคัญรู้ตัวหรือเปล่าว่าติดอยู่ในฌานไปไม่ถึงไหนต่างหาก เราต้องรู้จักสละสุขน้อยเพื่อหาสุขใหญ่ สุขในฌานแม้มากเพียงใหนก็ย่อมน้อยกว่าสุขของนิพพานเมื่อรู้อย่างนี้เราก็ละได้
วิชชาธรรมกายไม่ได้ติดในฌานอย่างที่ท่านทั้งหลายกล่าวอ้างเลยลองสอบถามกับผู้ที่ปฏิบัติได้ วิชชาธรรมกายมีแต่เรื่องการศึกษาค้นคว้าที่ละเอียดลึกซึ้งเข้าไปมากๆ จนมิอาจที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังในสถานที่สาธารณะอย่างนี้ได้
เรื่องฌานเท่าที่ผมทราบตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน ก็จำได้ว่าท่านก็เดินฌานสมาบัติเหมือนกัน โดยมีพระอนุรุทธะ เป็นผู้ใช้ตาทิพย์และรายงานให้คณะสงฆ์ทราบ ตลอดเวลาขณะที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำลังถอดกายสู่อายตนนิพพาน หากความนี้ไม่คลาดเคลื่อนก็เป็นสิ่งยืนยันว่าพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ทิ้งฌานแม้ตอนปรินิพพานเหมือนกัน