หลักฐาน"ธรรมกาย"ทางพุทธศาสนา ( 9 )

ตถาคตะคัพภะสูตร
พระพุทธรูปปางธรรมกาย(แสดงถึงตถาคตะคัพภะภายใน)

"พระไตรปิฎกของมหายาน มีพระสูตรสำคัญหนึ่งชื่อ "ตถาคตคัพภะสูตร" ตถาคตคัพภะ หรือ Tathagata Garbha เป็นภาษาสันสกฤต มีรากศัพท์มาจากคำ 2 คำคือ "ตถาคต" กับ "คัพภะ" คำว่า ตถาคต แปลว่า เสด็จไปแล้ว ซึ่งปกติจะใช้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้น ส่วนคำว่า "คัพภะ" นั้น คนไทยเอามาใช้ในความหมายที่แปลว่า "ครรภ์" หรือ "ท้อง" แต่สำหรับความหมายโดยรากศัพท์มี 2 อย่างคือ "ที่เก็บหรือที่ซ่อน" อย่างหนึ่ง และอีกความหมายคือ "ที่รวม" ดังนั้น ตถาคตคัพภะความหมายโดยรากศัพท์คือ "ที่รวมหรือที่เก็บแห่งพระพุทธเจ้า" หรือหากแปลโดยความหมายอย่างไทยแบบง่ายๆก็คือ "พระที่อยู่ในท้อง" ซึ่งก็คือ "พระธรรมกาย" ที่หลวงพ่อวัดปากน้ำได้ค้นพบโดยการเข้าถึงอีกครั้งนั่นเอง และจากการที่ได้ศึกษาจากพจนานุกรมฉบับมหายาน ยังได้ให้คำอธิบายตถาคตคัพภะไว้ว่า

"กิเลสซึ่งมีอยู่ภายในสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้น ภายในกิเลสได้ซ่อนธาตุแท้ของความบริสุทธิ์ของธรรมกายตถาคตเจ้าไว้ แม้ว่าตถาคตคัพภะจะถูกเก็บไว้ภายใต้กิเลสนั้น แต่กิเลสนั้นก็ไม่ได้ทำให้แปดเปื้อน จึงยังคงเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และความเป็นนิรันดร์ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง"

ตถาคตคัพภะนี้ได้ถูกจารึกไว้เป็นภาษาจีนและภาษาทิเบตและได้มีการแปลถ่ายทอดออกมาเป็นภาษาอังกฤษ และญี่ปุ่นแล้ว แต่ยังไม่มีการแปลออกมาเป็นภาษาไทย โดยเนื้อหาสาระของพระสูตรนี้กล่าวไว้ว่า "สรรพสัตว์ทั้งหลายทุกๆชีวิต มีความเป็นพุทธะ หรือมีธรรมะอยู่แล้วในตัวทุกๆคน แต่ว่าถูกอาสวกิเลสห่อหุ้มเอาไว้ ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงพุทธะหรือธรรมะในตัวเองได้" ซึ่งพุทธะหรือธรรมะที่อยู่ในตัวนี้ก็คือ "ธรรมกาย" ที่สถิตอยู่ ณ. ศูนย์กลางกายของเราทุกคนนั่นเอง ซึ่งเป็นประเด็นที่สอดคล้องกับแนวคำสอนวิชชาธรรมกาย

เนื้อความในตถาคตคัพภะสูตร

"ดังข้าพเจ้าได้สดับมาดังนี้ :

ครั้งหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ ณ เขาคิชฌกูฎ เมืองราชคฤห์ ณ สภาแสดงธรรมชื่อรัตนจันทร์ เป็นปีที่ 10 หลังจากที่พระองค์ได้บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ทรงมีพระเถระผู้ใหญ่และพระโพธิสัตว์ นั่งแวดล้อมอยู่เพื่อฟังธรรมกถาจากพระองค์

ในขณะนั้น ก่อนที่พระองค์จะเริ่มแสดงธรรม ทรงนั่งสมาธิอยู่และได้แสดงพุทธานุภาพ ให้บรรดาพระสาวกได้เห็นดอกบัวนับพันดอก และดอกบัวแต่ละกลีบมีขนาดใหญ่เท่าวงล้อรถ ดอกบัวมีกลิ่นหอม มีสีสันงดงามมาก เป็นดอกบัวตูมมีพระพุทธเจ้าอยู่ภายใน ดอกบัวเหล่านั้นลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ ปกคลุมไปทั่วทั้งจักรวาล เปรียบเสมือนมีม่านอันเป็นรัตนะ ดอกบัวแต่ละดอกเปล่งรัศมีเป็นประกาย ภายในดอกบัวปรากฏมีพระพุทธเจ้าประทับนั่งขัดสมาธิ เปล่งฉัพพรรณรังสีอยู่

ในชั่วพริบตานั้น พอดอกบัวคลี่กลีบบานออกไม่นาน กลีบก็ร่วงลง ปรากฏพระพุทธเจ้านั่งอยู่ภายใน และชั่วพริบตานั้น ดอกบัวทั้งหลายก็ร่วงโรยรา และเหี่ยวเฉา ส่งกลิ่นเหม็นเป็นอย่างยิ่ง น่ารังเกียจ บรรดาเหล่าสาวกเห็นภาพนิมิตที่พระองค์ทรงแสดง เกิดความสงสัยเป็นอย่างยิ่ง พระโพธิสัตว์ท่านหนึ่งกราบทูลถามพระพุทธองค์ว่า เหตุไฉนเล่าดอกบัวซึ่งมีพระพุทธเจ้านั่งลอยอยู่บนฟ้านภากาศ ปกคลุมไปทั่งจักรวาล แล้วเพียงครู่เดียวก็เหี่ยวแห้งโรยราไป เป็นเพราะสาเหตุใด พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสพระสูตรชื่อว่า ตถาคตคัพภะ บัดนี้จะได้แสดงธรรมครั้งนี้ให้ปรากฏ ขอท่านทั้งหลายตั้งใจสดับรับฟัง และทรงจำไว้ให้ดี

กัลยาณชนทั้งหลาย ข้าพเจ้าได้ตรวจเวไนยสัตว์ทั้งหลายด้วยพุทธจักษุ พบว่าต่างก็อยู่ในกองกิเลสแห่งโลภะ โทสะ โมหะ แต่ภายในนั้นมีปัญญาของตถาคตมีดวงจักษุของตถาคต มีกายของคถาคตนั่งขัดสมาธิสงบนิ่งอยู่

กัลยาณชนทั้งหลาย แม้ว่าจะมีกายที่อุดมไปด้วยกิเลส แต่ก็มีครรภ์แห่งตถาคตในกายที่อุดมไปด้วยกิเลสตัณหาทั้งหลายของเวไนยสัตว์ มีครรภ์แห่งตถาคต ซึ่งบริสุทธิ์ ไม่มีความสกปรกเจือปนเลย

กัลยาณชนทั้งหลาย ธรรมของพระพุทธเจ้านั้น ในยามที่พระองค์อุบัติขึ้นในโลกก็ดี หรือยังไม่อุบัติก็ดี ครรภ์แห่งพระตถาคตหรือตถาคตคัพภะก็มีอยู่แล้ว หาได้เปลี่ยนแปลงไม่ คือมีอยู่แล้วในเหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย แต่ถูกกิเลสทั้งหลายห่อหุ้มปกคลุมเอาไว้นั่นเอง การที่พระตถาคตเจ้าได้อุบัติขึ้นมาในโลกในภพทั้งสาม ทรงแสดงธรรมไปทั่ว เพื่อขจัดให้ดับพ้นจากฝุ่นธุลีของกิเลส เพื่อให้ปัญญาบริสุทธิ์หมดจด จะได้เข้าถึงตถาคตคัพภะ เข้าถึงธรรมะ และสามารถที่จะหลุดพ้น บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณได้"

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

I miss you all กับ I miss all of you ต่างกันอย่างไร

ปัญหาและเฉลยวิชาธรรม นักธรรมชั้นตรี สอบในสนามหลวง วันอังคาร ที่ ๒๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๒

ปัญหาและเฉลยวิชาอนุพุทธประวัติ นักธรรมชั้นโท สอบในสนามหลวง วันอาทิตย์ ที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๔๘