คำทำวัตรเช้า (ปุพพภาคนมการ)
(หันทะ มะยัง พุทธัสสะ ภะคะวะโต ปุพพะภาคะนะมะการัง กะโรมะ เส. )
- นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต
- ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ;
- อะระหะโต
- ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ;
- สัมมาสัมพุทธัสสะ.
- ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
( ๓ ครั้ง )
(๑. พุทธาภิถุติ)
(หันทะ มะยัง พุทธาภิถุติง กะโรมะ เส.)
- โย โส ตะถาคะโต,
- พระตถาคตเจ้านั้น พระองค์ใด ;
- อะระหัง
- เป็นผู้ไกลจากกิเลส ;
- สัมมาสัมพุทโธ ,
- เป็นผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ;
- วิชชาจะระณะสัมปันโน,
- เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ ;
- สุคะโต,
- เป็นผู้ไปแล้วด้วยดี ;
- โลกะวิทู,
- เป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง ;
- อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสาระถิ,
- เป็นผู้สามารถฝึกบุรุษที่สมควรฝึกได้ อย่างไม่มีใครยิ่งกว่า ;
- สัตถา เทวะมะนุสสานัง,
- เป็นครูผู้สอน ของเทวคาและมนุษย์ทั้งหลาย ;
- พุทโธ,
- เป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานด้วยธรรม ;
- ภะคะวา,
- เป็นผู้มีความจำเริญ จำแนกธรรมสั่งสอนสัตว์ ;
- โย อิมัง โลกัง สะเทวะกัง สะมาระกัง สะพรหมะกัง, สัสสะมะณะพราหมะณิง ปะชัง สะเทวะมะนุสสัง สะยัง อะภิญญา สัจฉิกัตวา ปะเวเทสิ,
- พระ ผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด, ได้ทรงทำความดับทุกข์ใหเ้เจ้งด้วยพระปัญญาอันยิ่งเองแล้ว, ทรงสอนโลกนี้ พร้อมทั้งเทวดา, มาร พรหม, และหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์, พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม ;
- โย ธัมมัง เทเสสิ,
- พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ใด, ทรงแสดงธรรมแล้ว ;
- อาทิกัลยาณัง,
- ไพเราะในเบื้องต้น,
- มัชเฌกัลยาณัง,
- ไพเราะในท่ามกลาง,
- ปะริโยสานะกัลยาณัง,
- ไพเราะในที่สุด,
- สาตถัง สะพยัญชะนัง เกวะละปริปุณณัง ปะริสุทธัง พรหมะจะริยัง ปะกาเสสิ,
- ทรง ประกาศพรหมจรรย์ คือแบบแห่งการปฏิบัติอันประเสริฐ บริสุทธิ์ บริบูรณ์ สิ้นเชิง, พร้อมทั้งอรรถะ (คำอธิบาย) พร้อมทั้งพยัญชนะ (หัวข้อ) ;
- ตะมะหัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
- ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ;
- มะหัง ภะคะวันตัง สิระสา นะมามิ.
- ข้าพเจ้านอบน้อมพระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น ด้วยเศียรเกล้า
(กราบรำลึกพระพุทธคุณ)
(๒. ธัมมาภิถุติ)
(หันทะ มะยัง ธัมมาภิถุติง กะโรมะ เส.)
- โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม,
- พระธรรมนั้นใด, เป็นสิ่งที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ตรัสไว้ดีแล้ว ;
- สันทิฏฐิโก,
- เป็นสิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติ พึงเห็นได้ด้วยตนเอง ;
- อะกาลิโก,
- เป็นสิ่งที่ปฏิบัติได้ และให้ผลได้ ไม่จำกัดกาล ;
- เอหิปัสสิโก,
- เป็นสิ่งที่ควรกล่าวกะผู้อื่นว่า ท่านจงมาดูเถิด ;
- โอปะนะยิโก,
- เป็นสิ่งที่ควรน้อมเข้ามาใส่ตัว ;
- ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ,
- เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน ;
- ตะมะหัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ,
- ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระธรรมนั้น ;
- ตะมะหัง ธัมมัง สิระสา นะมามิ,
- ข้าพเจ้านอบน้อมพระธรรมนั้น ด้วยเศียรเกล้า ;
(กราบรำลึกพระธรรมคุณ)
(๓. สังฆาภิถุติ)
(หันทะ มะยัง สังฆาภิถุติง กะโรมะ เส.)
- โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
- สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น หมู่ใด, ปฏิบัติดีแล้ว ;
- อุชุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
- สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติตรงแล้ว ;
- ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
- สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติเพื่อรู้ธรรมเป็นเครื่องออกจากทุกข์แล้ว ;
- สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
- สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้าหมู่ใด, ปฏิบัติสมควรแล้ว ;
- ยะทิทัง,
- ได้แก่บุคคลเหล่านี้คือ :
- จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา,
- คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่, นับเรียงตัวบุรุษ ได้ ๘ บุรุษ ;
- เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
- นั่นแหละ สงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า ;
- อาหุเนยโย,
- เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขานำมาบูชา ;
- ปาหุเนยโย,
- เป็นสงฆ์ควรแก่สักการะที่เขาจัดไว้ต้อนรับ ;
- ทักขิเณยโย,
- เป็นผู้ควรรับทักษิณาทาน ;
- อัญชะลิกะระณีโย,
- เป็นผู้ที่บุคคลทั่วไปควรทำอัญชลี ;
- อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสะ,
- เป็นเนื้อนาบุญของโลก, ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ;
- ตะมะหัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ,
- ข้าพเจ้าบูชาอย่างยิ่ง เฉพาะพระสงฆ์หมู่นั้น ;
- ตะมะหัง สังฆัง สิระสา นะมามิ,
- ข้าพเจ้านอบน้อมพระสงฆ์หมู่นั้น ด้วยเศียรเกล้า ;
(กราบรำลึกพระสังฆคุณ)
(๔. รตนัตตยัปปณามคาถา)
(หันทะ มะยัง ระตะนัตตะยัปปะณามะคาถาโย เจวะสังเวคะปะริกิตตะนะปาฐัญจะ ภะณามะ เส.)
- พุทโธ สุสุทโธ กะรุณามะหัณณะโว
- พระพุทธเจ้าผู้บริสุทธิ์ มีพระกรุณาดุจห้วงมหรรณพ ;
- โยจจันตะสุทธัพพะระญาณะโลจะโน,
- พระองค์ใด มีตาคือญาณอันประเสริฐหมดจดถึงที่สุด ;
- โลกัสสะ ปาปูปะกิเลสะฆาตะโก,
- เป็นผู้ฆ่าเสียซึ่งบาป และอุปกิเลสของโลก ;
- วันทามิ พุทธัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
- ข้าพเจ้าไหว้พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ.
- ธัมโม ปะทีโป วิยะ ตัสสะ สัตถุโน,
- พระธรรมของพระศาสดา สว่างรุ่งเรืองเปรียบดวงประทีป ;
- โย มัคคะปากามะเภทะภินนะโก,
- จำแนกประเภท คือ มรรค ผล นิพพาน, ส่วนใด
- โลกุตตระ โย จะ ตะทัตถะทีปะโน,
- ซึ่งเป็นตัวโลกุตตระ, และส่วนใดที่ชี้แนวแห่งโลกุตตระนั้น ;
- วันทามิ ธัมมัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
- ข้าพเจ้าไหว้พระธรรมนั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ.
- สังโฆ สุเขตตาภยะติเขตตะสัญญิโต,
- พระสงฆ์เป็นนาบุญอันยิ่งใหญ่กว่านาบุญอันดีทั้งหลาย ;
- โย ทิฏฐะสันโต สุคะตานุโพธะโก,
- เป็นผู้เห็นพระนิพพาน, ตรัสรู้ตามพระสุคต, หมู่ใด ;
- โลลัปปะหีโน อะริโย สุเมธะโส,
- เป็นผู้ละกิเลสเครื่องโลเล เป็นพระอริยเจ้า มีปัญญาดี ;
- วันทามิ สังฆัง อะหะมาทะเรนะ ตัง,
- ข้าพเจ้าไหว้พระสงฆ์หมู่นั้น โดยใจเคารพเอื้อเฟื้อ.
- อิจเจ วะเมกันตะภิปูชะเนยยะกัง, วัตถุตตะยัง วันทะยะตาภิสังขะตัง, ปุญญัง มะยา ยัง มะมะ สัพพุปัททะวา, มา โหนตุ เว ตัสสะ ปะภาวะสิทธิยา.
- บุญ ใด ที่ข้าพเจ้าผู้ไหว้อยู่ซึ่งวัตถุสาม, คือพระรัตนตรัย อันควรบูชายิ่งโดยส่วนเดียว, ได้กระทำแล้วเป็นอย่างยิ่งเช่นนี้นี้, ขออุปัททวะ (ความชั่ว) ทั้งหลาย, จงอย่ามีแก่ข้าพเจ้าเลย, ด้วยอำนาจความสำเร็จ อันเกิดจากบุญนั้น.
- อิธะ ตะถาคะโต โลเก อุปปันโน
- พระตถาคตเจ้าเกิดขึ้นแล้ว ในโลกนี้ ;
- อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ
- เป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ;
- ธัมโม จะ เทสิโต นิยยานิโก,
- และพระธรรมที่ทรงแสดง เป็นธรรมเครื่องออกจากทุกข์ ;
- อุปะสะมิโก ปะรินิพพานิโก,
- เป็นเครื่องสงบกิเลส, เป็นไปเพื่อปรินิพพาน ;
- สัมโพธะคามี สุคะตัปปะเวทิโต ;
- เป็นไปเพื่อความรู้พร้อม, เป็น ธรรมที่พระสุคตประกาศ ;
- มะยันตัง ธัมมัง สุตวา เอวัง ชานามะ : -
- พวกเราเมื่อได้ฟังธรรมนั้นแล้ว, จึงได้รู้อย่างนี้ว่า : -
- ชาติปิ ทุกขา,
- แม้ความเกิดก็เป็นทุกข์ ;
- ชะราปิ ทุกขา,
- แม้ความแก่ก็เป็นทุกข์ ;
- มะระณัมปิ ทุกขัง
- แม้ความตายก็เป็นทุกข์ ;
- โสกะปะริเทวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสาปิ ทุกขา,
- แม้ความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ก็เป็นทุกข์ ;
- อัปปิเยหิ สัมปะโยโค ทุกโข
- ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ ;
- ปิเยหิ วิปปะโยโค ทุกโข,
- ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์ ;
- ยัมปิจฉัง นะ ละภะติ ตัมปิ ทุกขัง,
- มีความปรารถนาสิ่งใด ไม่ได้สิ่งนั้น นั่นก็เป็นทุกข์ ;
- สังขิตเตนะ ปัญจุปาทานักขันธา ทุกขา,
- ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง ๕ เป็นตัวทุกข์ ;
- เสยยะถีทัง,
- ได้แก่สิ่งเหล่านี้ คือ :-
- รูปูปาทานักขันโธ,
- ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือรูป ;
- เวทะนูปาทานักขันโธ,
- ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือเวทนา ;
- สัญญูปาทานักขันโธ,
- ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสัญญา ;
- สังขารูปาทานักขันโธ,
- ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือสังขาร ;
- วิญญาณูปาทานักขันโธ,
- ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่น คือวิญญาณ ;
- เยสัง ปะริญญายะ,
- เพื่อให้สาวกกำหนดรอบรู้อุปาทานขันธ์ เหล่านี้ เอง,
- ธะระมาโน โส ภะคะวา,
- จึงพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เมื่อยังทรงพระชนม์อยู่,
- เอวัง พะหุลัง สาวะเก วิเนติ,
- ย่อมทรงแนะนำสาวกทั้งหลาย เช่นนี้เป็นส่วนมาก ;
- เอวังภาคา จะ ปะนัสสะ ภะคะวะโต สาวะเกสุ อะนุสาสะนี พะหุลา ปะวัตติตะติ,
- อนึ่ง คำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น, ย่อมเป็นไปในสาวกทั้งหลาย, ส่วนมาก, มีส่วนคือการจำแนกอย่างนี้ว่า :-
- รูปัง อะนิจจัง,
- รูปไม่เที่ยง ;
- เวทะนา อะนิจจา,
- เวทนาไม่เที่ยง ;
- สัญญา อะนิจจา,
- สัญญาไม่เที่ยง ;
- สังขารา อะนิจจา,
- สังขารไม่เที่ยง ;
- วิญญาณัง อะนิจจัง
- วิญญาณไม่เที่ยง ;
- รูปัง อะนัตตา,
- รูปไม่ใช่ตัวตน ;
- เวทะนา อะนัตตา,
- เวทนาไม่ใช่ตัวตน ;
- สัญญาอะนัตตา,
- สัญญาไม่ใช่ตัวตน ;
- สังขาราอะนัตตา,
- สังขารไม่ใช่ตัวตน ;
- วิญญาณัง อะนัตตา,
- วิญญาณไม่ใช่ตัวตน ;
- สัพเพ สังขารา อะนิจจา,
- สังขารทั้งหลายทั้งปวง ไม่เที่ยง..
- สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ,
- ธรรมทั้งหลายทั้งปวง ไม่ใช่ตัวตน ดังนี้.
- เต (ตา) มะยัง โอติณณามหะ,
- พวกเราทั้งหลาย เป็นผู้ถูกครอบงำแล้ว ; ชาติยา, โดยความเกิด ;
- ชะรามะระเณนะ,
- โดยความแก่และความตาย ;
- โสเกหิ ปะริเทเวหิ ทุกเขหิ โทมะนัสเสหิ อุปยาเสหิ,
- โดยความโศก ความร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ทั้งหลาย ;
- ทุกโขติณณา,
- เป็นผู้ถูกความทุกข์ หยั่งเอาแล้ว ;
- ทุกขะปะเรตา,
- เป็นผู้มีความทุกข์ เป็นเบื้องหน้าแล้ว ;
- อัปเปวะนามิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขันขันธัสสะ อันตะกิริยา ปัญญาเยถาติ.
- ทำไฉน การทำที่สุดแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ . จะพึ่งปรากฏชัด แก่เราได้.
- จิระปะรินิพพุตัมปิ ตัง ภะคะวันตัง สะระณัง คะตา,
- เรา ทั้งหลายผู้ถึงแล้วซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า แม้ปรินิพพานนานแล้ว พระองค์นั้น เป็นสรณะ ; ธัมมัญจะ สังฆัญจะ, ถึงพระธรรมด้วย, ถึงพระสงฆ์ด้วย ;
- ตัสสะ ภะคะวะโต สาสะนัง ยะถาพะลัง มะนะสิกะโรมะ อะนุปะฏิปัชชามะ,
- จัก ทำในใจอยู่ ปฏิบัติตามอยู่ ซึ่งคำสั่งสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้นตามสติกำลัง ; สา สา โน ปะฏิปัตติ, ขอให้ความปฏิบัตินั้น ๆ ของเราทั้งหลาย ;
- อิมัสสะ เกวะลัสสะ ทุกขักขันธัสสะ อันตะกิริยายะ สังวัตตะตุ.
- จงเป็นไปเพื่อการทำที่สุดแห่งกองทุกข์ ทั้งสิ้นนี้ เทอญ.
(จบคำทำวัตรเช้า)